ระเบียบ การใช้ทุนสาธารณประโยชน์ พ.ศ.2554
Posted: Admin Date: 2015-07-23 11:48:56
IP: 171.96.148.169
 
สหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงแรงงาน จำกัด
ว่าด้วย การใช้ทุนเพื่อสาธารณประโยชน์ พ.ศ. ๒๕๕๔

-----------------------------------
 
     เพื่อให้การใช้ทุนสาธารณประโยชน์ของสหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงแรงงาน จำกัด   เป็นไปตามวัตถุประสงค์
แห่งข้อบังคับของสหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงแรงงาน จำกัด พ.ศ.๒๕๔๕ ข้อ ๓(๑๔)     และเพื่อความเหมาะสม
ที่ประชุมคณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงแรงงาน  จำกัด   ครั้งที่   ๘/๒๕๕๔   วันที่ 
๘ กรกฎาคม ๒๕๕๔  และครั้งที่ ๑๕/๒๕๕๔ วันที่ ๒๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๔   จึงมีมติให้ปรับปรุงแก้ไขระเบียบ
สหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงแรงงาน จำกัด ว่าด้วยการใช้ทุนเพื่อสาธารณประโยชน์  
อาศัยอำนาจตามความในข้อ
๗๕ (๘)   และข้อ ๑๐๓ (๘)  แห่งข้อบังคับของสหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงแรงงาน จำกัด  พ.ศ.๒๕๔๕ 
คณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงแรงงาน จำกัด   จึงได้กำหนดระเบียบไว้ดังต่อไปนี้
     ข้อ ๑ ระเบียบนี้เรียกว่า  “ระเบียบสหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงแรงงาน จำกัด  ว่าด้วย การใช้ทุนเพื่อสาธารณ
ประโยชน์ พ.ศ.๒๕๕๔”
     ข้อ ๒ ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๔ เป็นต้นไป
     ข้อ ๓   ให้ยกเลิกระเบียบสหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงแรงงาน จำกัด   ว่าด้วย การใช้ทุน
เพื่อสาธารณประโยชน์ พ.ศ. ๒๕๕๒
 
หมวด   ๑
บททั่วไป
 
     ข้อ ๔   ในระเบียบนี้
                สหกรณ์ ”   หมายความว่า   สหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงแรงงาน จำกัด
                ทุนสาธารณประโยชน์”  หมายความว่า เงินทุนสาธารณประโยชน์ที่สะสมมา  หรือเงินอื่นใดที่มี
ผู้บริจาค และเงินที่สหกรณ์จัดสรรจากกำไรสุทธิในแต่ละปี เพื่อเป็นการช่วยเหลือสมาชิกสหกรณ์และครอบครัว
รวมทั้งสาธารณประโยชน์อื่นๆ
                “สมาชิกสหกรณ์ ” หมายความว่า สมาชิกและสมาชิกสมทบของสหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงแรงงาน จำกัด
                “ประธานกรรมการ”   หมายความว่า   ประธานกรรมการดำเนินการสหกรณ์ออมทรัพย์
กระทรวงแรงงาน จำกัด
                 “คณะกรรมการดำเนินการ”   หมายความว่า คณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์ออมทรัพย์
กระทรวงแรงงาน จำกัด
                  “คู่สมรส”   หมายความว่า   ภรรยาหรือสามีโดยชอบด้วยกฎหมายของสมาชิกสหกรณ์
                  “บิดา มารดา”   หมายความว่า บิดา หรือมารดา โดยกำเนิดของสมาชิกสหกรณ์ 
                  “บุตร” หมายความว่า บุตรชอบด้วยกฎหมายซึ่งยังไม่บรรลุนิติภาวะ หรือบรรลุนิติภาวะแล้ว  แต่เป็นคน
ไร้ความสามารถ หรือเสมือนไร้ความสามารถ ซึ่งอยู่ในความอุปการะเลี้ยงดูของบิดาหรือมารดา  ที่เป็นสมาชิกสหกรณ์
แต่ทั้งนี้ไม่รวมถึงบุตรบุญธรรมหรือบุตรซึ่งได้ยกให้เป็นบุตรบุญธรรมของบุคคลอื่นแล้ว
                  “ภัยธรรมชาติ”   หมายความว่า   ภัยใดๆ   อันเกิดขึ้นตามธรรมชาติ   เช่น อุทกภัย วาตภัย   อัคคีภัย   เป็นต้น
     ข้อ ๕ ทุนสาธารณประโยชน์ให้จ่ายในกรณี ดังต่อไปนี้
              (๑)   การสงเคราะห์เกี่ยวกับทุนการศึกษาบุตรสมาชิก
              (๒)   การสงเคราะห์เกี่ยวกับการกุศลและการกีฬา
              (๓)   การสงเคราะห์เกี่ยวกับการจัดการศพ
              (๔)   การสงเคราะห์เกี่ยวกับการประสบภัยธรรมชาติ
              (๕)   การสงเคราะห์เกี่ยวกับสาธารณประโยชน์กรณีอื่นๆ
 
หมวด ๒
การสงเคราะห์เกี่ยวกับทุนการศึกษาบุตรสมาชิก
 
     ข้อ ๖ การให้ทุนการศึกษาบุตรสมาชิกให้จ่ายจากทุนสาธารณประโยชน์ โดยแบ่งเป็น   ๒ ประเภท ได้แก่
             (๑)   ทุนเรียนดี
             (๒)   ทุนส่งเสริมการศึกษา
     ข้อ ๗ ในการให้ทุนแต่ละปีให้กำหนดปีละ ๑ ครั้ง และสามารถกำหนดจำนวนทุนในแต่ละระดับการศึกษาได้
 ทั้งนี้ ให้เป็นไปตามความเหมาะสมกับจำนวนเงินทุนการศึกษาบุตรสมาชิกที่ผ่านการจัดสรรจากที่ประชุมใหญ่
ในแต่ละปี ในกรณีที่เงินจัดสรรไม่เพียงพอ ให้คณะกรรมการดำเนินการพิจารณาจากทุนสาธารณประโยชน์
เพิ่มเติมตามความเหมาะสม
     ข้อ ๘ หลักเกณฑ์ในการให้ทุนการศึกษาบุตรสมาชิก มีดังนี้
             (๑) ให้ทุนแก่บุตรสมาชิก ที่เป็นสมาชิกมาแล้วไม่น้อยกว่า ๑ ปี
             (๒) สมาชิกต้องขอรับทุนให้แก่บุตรที่อายุไม่เกิน ๒๐ ปีบริบูรณ์ และเป็นผู้ที่เรียนอยู่ใน
สถานศึกษาของทางราชการ หรือสถานศึกษาของเอกชนที่สอนตามหลักสูตรของกระทรวงศึกษาธิการ ตั้งแต่
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ถึงปริญญาตรี
             (๓) สมาชิกคนหนึ่งมีสิทธิขอรับทุนการศึกษาบุตรได้เพียง ๑ ทุน
             (๔) บุตรของสมาชิกคนหนึ่งมีสิทธิรับทุนการศึกษาได้เพียง ๑ ทุน
             (๕) บุตรสมาชิกที่มีความบกพร่องทางร่างกายหรือมีหนังสือรับรองจากแพทย์ว่า              เป็นผู้มีความบกพร่องและอยู่ระหว่างการศึกษาในโรงเรียนคนพิการของรัฐหรือเอกชนที่ได้รับการรับรอง หรือ
สถานศึกษาอื่น ให้ได้รับการพิจารณาทุนการศึกษาเป็นกรณีพิเศษ
             (๖) ไม่เป็นผู้ได้รับทุนการศึกษาของสหกรณ์ติดต่อกันเกินกว่า ๒ ปี     
             (๗) ในกรณีที่มีปัญหาเกี่ยวกับการปฏิบัติตามระเบียบ ให้คณะกรรมการดำเนินการเป็นผู้มีอำนาจ
วินิจฉัยและให้ถือเป็นที่สุด
     ข้อ ๙ ให้คณะกรรมการดำเนินการอนุมัติจ่ายทุนเพื่อการศึกษาบุตร ทั้งนี้ อยู่ในดุลยพินิจของคณะกรรมการ
ดำเนินการตามความเหมาะสม
 
 หมวด ๓
 การสงเคราะห์เกี่ยวกับการกุศลและการกีฬา
 
     ข้อ ๑๐ การจ่ายเพื่อการกุศลและการกีฬา 
               (๑) การจ่ายเพื่อการกุศล   ได้แก่ การจ่ายเป็นทุนการบำรุงการศาสนาทั้งทางวัตถุและวิชาการ ส่งเสริม
ศิลปวัฒนธรรมขนบธรรมเนียมอันดีงาม  หรือการช่วยเหลือสงเคราะห์ผู้ประสบภัยธรรมชาติ
               (๒) การจ่ายเพื่อการกีฬา ได้แก่ การส่งเสริมสนับสนุนอุปกรณ์การกีฬาแก่องค์กรการกุศลต่างๆ เช่น มูลนิธิ โรงเรียน
      ทั้งนี้ อยู่ในดุลยพินิจของคณะกรรมการดำเนินการตามความเหมาะสม
 
หมวด ๔
การสงเคราะห์เกี่ยวกับการจัดการศพ
 
     ข้อ ๑๑ สหกรณ์อาจทำประกันชีวิตให้กับสมาชิกสหกรณ์ตามที่คณะกรรมการดำเนินการเห็นสมควร และสหกรณ์
อาจจ่ายเงินค่าเบี้ยประกันชีวิตให้แก่สมาชิกสหกรณ์ทั้งหมดหรือบางส่วน ตามที่คณะกรรมการดำเนินการเห็นสมควร 
โดยจ่ายจากทุนสาธารณประโยชน์ 
ในกรณีที่ผู้สมัครเข้าเป็นสมาชิกสหกรณ์ในระหว่างปีบัญชีสหกรณ์ สมาชิกสหกรณ์จะต้องจ่ายเบี้ยประกันชีวิตในปีแรก
ทั้งหมดในปีบัญชีสหกรณ์ใด หากสหกรณ์ไม่ได้จัดทำประกันชีวิตไว้ และสมาชิกสหกรณ์             ถึงแก่กรรม ให้ผู้มีสิทธิตามข้อ ๑๓ วรรคหนึ่ง ได้รับเงินสงเคราะห์ตามหลักเกณฑ์ ดังต่อไปนี้
               (๑) เป็นสมาชิกสหกรณ์ติดต่อกันไม่ครบห้าปี ให้ได้รับเงินสงเคราะห์ห้าหมื่นบาท
               (๒) เป็นสมาชิกสหกรณ์ติดต่อกันครบห้าปี แต่ไม่ครบสิบปี ให้ได้รับเงินสงเคราะห์หนึ่งแสนบาท
               (๓) เป็นสมาชิกสหกรณ์ติดต่อกันครบสิบปีขึ้นไป ให้ได้รับเงินสงเคราะห์หนึ่งแสนห้าหมื่นบาท       ในกรณีตามวรรคสาม หากคู่สมรสและบุตรของสมาชิกสหกรณ์ซึ่งได้ทำประกันชีวิตต่อเนื่องในปีที่ผ่านมา
ได้ถึงแก่กรรม ให้มีสิทธิได้รับเงินสงเคราะห์ตามหลักเกณฑ์ดังกล่าวด้วย  และไม่สามารถใช้สิทธิตามข้อ ๑๔ ได้
 
     ข้อ ๑๒ สมาชิกสหกรณ์ที่ไม่สามารถทำประกันชีวิตได้ตามข้อ  ๑๑ วรรคหนึ่ง เมื่อถึงแก่กรรม
ให้ผู้มีสิทธิตามข้อ ๑๓ วรรคหนึ่ง ได้รับเงินสงเคราะห์ตามหลักเกณฑ์ ดังต่อไปนี้
               (๑) เป็นสมาชิกสหกรณ์ติดต่อกันครบหกเดือน   แต่ไม่ครบหนึ่งปี ให้ได้รับเงินสงเคราะห์สองพันบาท
               (๒) เป็นสมาชิกติดต่อกันครบหนึ่งปี แต่ไม่ครบสามปี   ให้ได้รับเงินสงเคราะห์สี่พันบาท
               (๓) เป็นสมาชิกติดต่อกันครบสามปี แต่ไม่ครบหกปี ให้ได้รับเงินสงเคราะห์แปดพันบาท
               (๔) เป็นสมาชิกติดต่อกันครบหกปี แต่ไม่ครบสิบปี ให้ได้รับเงินสงเคราะห์หนึ่งหมื่นสองพันบาท
               (๕) เป็นสมาชิกติดต่อกันครบสิบปี แต่ไม่ครบสิบห้าปี ให้ได้รับเงินสงเคราะห์หนึ่งหมื่นหกพันบาท
               (๖) เป็นสมาชิกติดต่อกันครบสิบห้าปีขึ้นไป ให้ได้รับเงินสงเคราะห์สองหมื่นบาท  การนับระยะเวลา
     การเป็นสมาชิกสหกรณ์ตามวรรคหนึ่ง ให้นับเฉพาะเดือนที่สมาชิกสหกรณ์ได้ส่งเงินค่าหุ้น และให้ถือว่าหนึ่งปี
มีระยะเวลาการส่งเงินค่าหุ้นสิบสองเดือน
     นอกจากเงินสงเคราะห์ตามที่กำหนดในวรรคหนึ่งแล้ว ให้ผู้มีสิทธิตามข้อ ๑๓ วรรคท้าย มีสิทธิได้รับเงิน
ช่วยเหลือค่าจัดการศพอีกรายละหนึ่งหมื่นบาท
     ข้อ ๑๓   สหกรณ์จะจ่ายเงินสงเคราะห์ตามข้อ ๑๒(๑) - (๖) ให้แก่ผู้ที่สมาชิกสหกรณ์ระบุชื่อให้เป็นผู้รับประโยชน์
ตามหนังสือแสดงเจตนาระบุผู้รับประโยชน์ ในกรณีที่ไม่ได้ระบุผู้รับประโยชน์ไว้ให้จ่ายเงินดังกล่าวแก่ทายาท
     สหกรณ์จะจ่ายเงินช่วยเหลือค่าจัดการศพตามข้อ ๑๒ วรรคท้าย ให้แก่ผู้จัดการศพ
     ข้อ ๑๔ บิดา มารดา คู่สมรส หรือบุตรของสมาชิกสหกรณ์ซึ่งมิได้เป็นสมาชิกสหกรณ์ถึงแก่กรรมให้สมาชิก
สหกรณ์มีสิทธิได้รับเงินสงเคราะห์หนึ่งในสี่ส่วน โดยถือหลักเกณฑ์ตามที่กำหนดไว้ในข้อ ๑๒ (๑) – (๖)
      ข้อ ๑๕ เมื่อสมาชิกสหกรณ์ บิดา มารดา คู่สมรสหรือบุตรของสมาชิกสหกรณ์ถึงแก่กรรม ให้ผู้มีสิทธิตามข้อ ๑๓
หรือข้อ ๑๔ แจ้งเป็นหนังสือตามแบบที่สหกรณ์กำหนดเพื่อขอรับเงินสงเคราะห์หรือเงินช่วยเหลือค่าจัดการศพ
ภายในหนึ่งปีนับแต่วันถึงแก่กรรม หากพ้นกำหนดนี้แล้ว สิทธิในการ  รับเงินดังกล่าวเป็นอันสิ้นสุดลง
      ข้อ ๑๖   เงินสงเคราะห์และเงินช่วยเหลือค่าจัดการศพตามระเบียบนี้   ให้เป็นสิทธิเฉพาะตัวจะนำหนี้อื่นมาหักมิได้
เว้นแต่หนี้ซึ่งสมาชิกสหกรณ์ผู้นั้นมีอยู่ต่อสหกรณ์
 
หมวด ๕
การสงเคราะห์เกี่ยวกับการประสบภัยธรรมชาติ
 
     ข้อ ๑๗ สหกรณ์อาจทำประกันภัยทรัพย์สินให้กับสมาชิกสหกรณ์ตามที่คณะกรรมการดำเนินการเห็นสมควร 
และสหกรณ์อาจจ่ายเงินค่าเบี้ยประกันภัยให้แก่สมาชิกทั้งหมดหรือบางส่วน โดยจ่ายจากทุนสาธารณประโยชน์
ในกรณีที่สหกรณ์ได้จัดทำโครงการประกันภัยตามวรรคหนึ่งให้แก่สมาชิกสหกรณ์    การจ่ายเงินสงเคราะห์
ให้เป็นไปตามที่กำหนดในกรมธรรม์ที่บริษัทประกันภัยทำไว้กับสหกรณ์
      ข้อ ๑๘ สมาชิกสหกรณ์ผู้ใดประสบภัยธรรมชาติ   ซึ่งไม่ได้ทำประกันภัยตามข้อ ๑๗ หรือทำ
ประกันภัยตามข้อ ๑๗ แล้ว แต่ไม่เข้าเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์ ให้ได้รับเงินสงเคราะห์ตามหลักเกณฑ์ ดังต่อไปนี้
                (๑) เป็นสมาชิกสหกรณ์ติดต่อกันครบหกเดือน ให้ได้รับเงินสงเคราะห์ไม่เกินสองพันบาท
                (๒) เป็นสมาชิกสหกรณ์ครบสองปี แต่ไม่ครบห้าปีให้ได้รับเงินสงเคราะห์ไม่เกินสามพันบาท
                (๓) เป็นสมาชิกสหกรณ์ครบห้าปี แต่ไม่ครบสิบปีให้ได้รับเงินสงเคราะห์ไม่เกินห้าพันบาท
                (๔) เป็นสมาชิกสหกรณ์ครบสิบปีขึ้นไป ให้ได้รับเงินสงเคราะห์ไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท
     การจ่ายเงินสงเคราะห์ตามหลักเกณฑ์ในวรรคหนึ่ง ให้อยู่ในดุลยพินิจของคณะกรรมการดำเนินการ
 
หมวด ๖
การสงเคราะห์เกี่ยวกับสาธารณประโยชน์อื่นๆ
 
      ข้อ ๑๙ การจ่ายเพื่อการสงเคราะห์เกี่ยวกับสาธารณประโยชน์อื่นๆ  ได้แก่ การช่วยเหลือที่ต้องก่อให้เกิด
ประโยชน์ต่อสาธารณะทั่วไปโดยส่วนรวม มิใช่เพื่อบุคคล เช่น ถนน โรงพยาบาล สะพาน บ่อน้ำ สวนสาธารณะ
สมาคม องค์กรการกุศล เป็นต้น   
ทั้งนี้ อยู่ในดุลยพินิจของคณะกรรมการดำเนินการตามความเหมาะสม   
      ข้อ ๒๐ ให้ประธานกรรมการดำเนินการ พิจารณาอนุมัติสั่งจ่ายเงินให้เป็นไปตามระเบียบนี้  การพิจารณา
อนุมัติสั่งจ่ายให้พิจารณาตามลำดับคำร้องที่ยื่นขอรับการสงเคราะห์   และต้องจัดให้ผู้รับการสงเคราะห์ส่งหลักฐาน
การรับเงินให้แก่สหกรณ์ทุกราย และให้เสนอที่ประชุมคณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์ทราบทุกครั้ง
     ข้อ ๒๑   สหกรณ์มีสิทธิที่จะงดจ่ายหรือลดจำนวนเงินลงตามข้อ ๑๑ ข้อ ๑๒ ข้อ ๑๗ และข้อ ๑๘ ได้ 
หากปรากฏว่าเงินทุนสาธารณประโยชน์หมดลงหรือมีจำนวนน้อยกว่าหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ใน  ข้อ ๑๑ ข้อ ๑๒ 
ข้อ ๑๗ และข้อ ๑๘  
ข้อ  ๒๒ การจ่ายทุนสาธารณประโยชน์ เพื่อการใดให้เป็นไปตามระเบียบที่สหกรณ์กำหนด
เพื่อการนั้น  ในกรณีที่สหกรณ์ยังไม่กำหนดระเบียบเพื่อการนั้นให้อยู่ในดุลยพินิจของคณะกรรมการดำเนินการ
         
ประกาศ ณ วันที่  ๙   ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๔
 
 
 
 (นายสมเกียรติ ฉายะศรีวงศ์)
ประธานกรรมการดำเนินการ

                                         สหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงแรงงาน จำกัด